"คริสตจักรความหวัง มีนิมิตที่จะทำให้พระมหาบัญชาของพระเจ้าสำเร็จ โดยการสร้างคนที่มีคุณภาพตามแบบพระคัมภีร์ เพื่อตั้งคริสตจักรที่มีคุณภาพตามแบบพระคัมภีร์ ปรากฏเป็นเกลือและแสงสว่างในทุกตำบล ทุกอำเภอ ในจังหวัดนี้ ในประเทศไทย และทั่วโลก”

ปรัชญาของเรา

คริสตจักรความหวัง เชื่อว่า องค์พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรของพระองค์ (มธ.16:18) และเชื่อในสิทธิอำนาจของพระคริสตธรรมคัมภีร์ ว่าเป็นสิทธิอำนาจสูงสุดในคริสตจักรและในการดำเนินชีวิตคริสเตียน (2 ทธ.3:16-17) ตลอดเวลาที่ผ่านมา จึงเชื่อฟังและกระทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ (มธ.28:20)
โดยยึดมั่นในปรัชญาของคริสตจักรตามแบบพระคัมภีร์ 23 ประการ ดังนี้
1) การเชื่อฟังพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ (มธ.28:18-20)
2) การรับผิดชอบให้ประเทศไทยได้รับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (มธ.28:18-20)
3) คริสตจักรเป็นคำตอบของชีวิต (มธ.16, อฟ.3:10)
4) การมีลักษณะชีวิตที่แสดงออกสอดคล้องตามหลักการพระคัมภีร์ (กจ.20:24)
5) การดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้าโดยมีเป้าหมายเพื่อขยายอาณาจักรของพระ เจ้าทุกขณะ ทำอย่างสุดความสามารถตามของประทานที่มีอยู่ (กจ.20:19)
6) คริสตจักรท้องถิ่นมีความสำคัญและเป็นจุดเน้นหลักที่พระคัมภีร์กล่าวถึง เพราะการเสริมสร้าง คริสตจักรท้องถิ่นให้จำเริญขึ้นจะมีผลทำให้คริสตจักรสากลเจริญขึ้นในที่สุด (มธ.16:18, อฟ.2:19-20)
7) คริสเตียนทุกคนควรรับใช้พระเจ้าเต็มที่ตามของประทานความสามารถของตน (1 คร.4:21, 2 คร.5:14-15)
8) ผู้รับใช้ของพระเจ้ายินดีรับใช้อย่างเต็มเวลา และเป็นผู้ที่พิสูจน์ชีวิตของตนในการร่วมรับใช้กับคริสตจักรอย่างเต็มที่มาแล้ว
9) ผู้นำในคริสตจักรไม่ได้ถูกแต่งตั้งโดยมนุษย์ แต่ถูกแต่งตั้งโดยพระเจ้า (1ธส.5:12-13)
10) ศิษยาภิบาลเป็นผู้นำของคณะผู้ปกครอง (กจ.1:15; 2:14 ;12:17; 21:18)
11) คริสเตียนทุกคนจะต้องได้รับการปกคลุมฝ่ายวิญญาณจากคริสตจักรท้องถิ่น และเป็นสมาชิกของคริสตจักร
12) การสร้างคนตามแบบพระคัมภีร์เป็นงานที่สำคัญที่คริสเตียนทุกคนต้องทำไม่มีข้อยกเว้น
13) การมีโรงเรียนพระคริสตธรรมของคริสตจักร เพื่อเป็นที่ที่คนจะได้นำสิ่งที่เรียนรู้มาฝึกฝนทักษะในการรับใช้
14) คริสตจักรท้องถิ่นต้องทำงานเป็นเอกภาพ (สดด.133)
15) คริสตจักรทำงานเป็นทีม
16) คริสตจักรไม่เป็นเพียงองค์กร (มีโครงสร้าง) แต่เป็นอวัยวะแห่งชีวิต (1 คร.12)
17) คริสตจักรต้องมีความสัมพันธ์ภายในที่ผูกพันกันโดยความรักที่เหนียวแน่น (อฟ.4:15-16) เป็นความสัมพันธ์แบบพันธสัญญาระหว่างเรากับพระเจ้าและพี่น้องในคริสตจักร
18) สิทธิอำนาจมีไว้เพื่อเป็นพระพร (ฮบ.13:17 )
19) คริสตจักรควรพึ่งพาพระเจ้าโดยการรับผิดชอบของตนเองมากที่สุด
20) คริสตจักรต้องมีส่วนสนับสนุนการตั้งคริสตจักรอื่นๆ ให้เกิดขึ้น
21) ผู้นำคริสตจักรท้องถิ่นควรเกิดจากคนภายในคริสตจักรเอง
22) ของประทานทุกอย่างยังมีอยู่และต้องใช้ในคริสตจักร
23) คริสตจักรเป็นสื่อนำสวัสดิภาพมาสู่คนทั้งปวง เป็นเกลือและแสงสว่าง มีอิทธิพลที่ดีต่อโลกและสังคม (ปฐก.1:28,มธ.5:13)